นายภูมิธรรม เวชยชัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 แถลงเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า นายกรัฐมนตรีได้ลงนาม กรรมการ35 คน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยย้ำว่าจะไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 โดยจะทำให้เป็นฉบับที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นและจะพยายามทำให้เสร็จภายในวาระ 4 ปีของรัฐบาล แต่หากเสร็จก่อนก็ได้แต่ไม่ควรเกิน 4 ปี
เปิด 35 รายชื่อ "เศรษฐา" ตั้งศึกษาแนวทางทำประชามติ เพื่อแก้รัฐธรรมนูญ
ตั้ง 7 รัฐมนตรี เดินหน้านโยบายแจก เงินดิจิทัล 10,000 บาท ยืนยันใช้บล็อกเชน
รวมถึงการจัดทำกฎหมายลูกให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลาดังกล่าวด้วย เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งถัดไปจะได้ใช้กฎกติกานี้ โดยคาดหวังว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องเร่งรีบที่สุดเท่าที่จะเร่งได้และจะดูวิธีการที่นำมาซึ่งประชามติซึ่งมี 2-3 ทางคือ 1.ให้ประชาชน 50,000 คนในการเข้าชื่อแต่จะเสียเวลาในการตรวจสอบรายชื่อ 2 คือยื่นเสนอผ่านรัฐสภา แต่ก็ใช้เวลามากและอาจถูกตีตกเพราะมีกระบวนการทางกฎหมายเยอะและ 3. ให้ครม.มีมติให้ทำประชามติเลยซึ่งเป็นการลัดขั้นตอนดำเนินการ แต่ครม.อยากเห็นว่าถ้าจะไปแล้วจะมีทิศทางเบื้องต้นอย่างไรจึงตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาเพื่อดำเนินการ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เบื้องต้นกำหนดคณะกรรมการไว้ 30 คนเพื่อคล่องแคล่วว่องไวแต่ในที่สุดไม่ครอบคลุมจึงแตกออกมาเป็น 35 คนยอมรับว่ายังไม่ครอบคลุม แต่จะครอบคลุมมากที่สุด โดยกำหนดกรอบไว้ว่าหลังทำงานจะไปพบ ตัวแทน กับกลุ่มวิชาชีพต่างๆ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในสิ่งที่ไม่สามารถเชิญมาร่วมได้เช่นที่ประชุมอธิการบดี และองค์กรนักศึกษาต่างๆหรือนักธุรกิจเช่นสภาหอการค้าไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสมาคมธนาคารสมาคมประมง สมาคมนักท่องเที่ยวที่ล้วนได้รับผลกระทบจากความไม่เป็นประชาธิปไตยหรือเป็นประชาธิปไตย อาจต้องหารือกับกลุ่มเกษตรกร รวมถึงตัวแทนสมาคมสื่อ
นายภูมิธรรม กล่าวว่าได้นัดหมายการประชุมครั้งแรกวันที่ 10ตุลาคม เพื่อพูดคุยเบื้องต้นและวางกรอบได้ว่า ภายใน 3-4 เดือนหรือก่อนสิ้นปีนี้ จะมีข้อสรุปเกี่ยวกับการทำประชามติ ซึ่งทั้งหมดก็จะอยู่ในกรอบเวลา 3 ปีบวก แล้วจะพิจารณาว่าควรทำกี่ครั้งโดยอยากทำให้น้อยครั้งที่สุดเพื่อประหยัดงบประมาณ
นายภูมิธรรม กล่าวว่าขณะนี้ยังรอพรรคก้าวไกลส่งตัวแทนมา แต่หากยังไม่พร้อมไม่สะดวกใจหรือด้วยเหตุใดก็ตาม ก็มีวิธีในการเปิดเวทีรับฟังความเห็น เป็นองค์ประกอบในการเสนอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
ส่วนแนวทางจะมีการตั้ง สสร. หรือไม่คงต้องมาพิจารณา ในรายละเอียด อีกครั้ง และ ต้องดูรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนแต่อยากเซฟให้ทำประชามติให้น้อยที่สุดเพราะการทำแต่ละครั้งคือ 3,000 ล้านบาทในปัจจุบันถึง 4,000 ล้านบาทซึ่งถ้าเกิดทำจำนวน 4 ครั้งเท่ากับ 16,000 ล้านบาทเป็นการใช้งบประมาณจำนวนมากแต่หากข้อกฎหมายเปิดได้สามารถประสานกันได้ทำก่อนและทำหลังเพียง 2 ครั้งก็ประมาณ 6,000 – 8,000 ล้านบาท ไม่ถึง 10,000 ล้านบาท ก็จะเป็นเรื่องดีที่สุด
ส่วนการทำประชามติครั้งแรกก็คือจะเป็นคำถามเกี่ยวกับการทำประชามติ เป็นภาระหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องจะไปดำเนินการ แต่ขอยืนยันว่าเปิดทุกอย่าง มาคุยกันตกผลึก ในการแก้ไขยกเว้นหมด 1 และหมวด 2 ที่จะไม่มีการแก้ไข และจะต้องทำให้ผ่านความเห็นชอบ โดยให้ฝ่ายที่มีความเห็นต่างกันหาจุดร่วมที่สามารถทำได้ พร้อมระบุว่าประชาธิปไตยเป็นเรื่องพัฒนาการและก็จะสามารถเดินหน้านำไปสู่การปรับแก้ได้
ส่วนการทำ ประชามติครั้งแรก คาดการณ์ว่า น่าจะ เกิดขึ้น ต้นปี 2567 เพราะ จะทำกรอบให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้
ส่วน ครม. ได้ถกเถียงหรือไม่ เกี่ยวกับการล็อกหมวด1 หมวด2 เพราะ ครั้งก่อนยังแก้ได้ซึ่งนายภูมิธรรมกล่าวว่าขณะนี้ สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป อะไรที่เป็นปัญหาเดิมแล้วยังไม่คลี่คลายให้ยกเว้นไว้ก่อนแต่ไม่ได้บอกว่าอันไหนถูกผิดหรือดีไม่ดีแต่ย้ำว่าต้องทำรัฐธรรมนูญให้ผ่านให้ได้ดังนั้นอันไหนที่เป็นปัญหาก็ต้องหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้รัฐมนตรีเกิดขึ้นและเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดซึ่งประชาธิปไตยไม่มีมาตรฐานวัด แต่อยู่ในพหุสังคมที่มีความแตกต่างต้องหาจุดร่วมให้ได้ แล้วต้องทำให้สังคมยอมรับไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาความขัดแย้งใหม่
สำหรับกลุ่มไอลอว์ อยู่ในข่ายที่จะเชิญมาร่วม แต่เหมือนจะปฏิเสธไม่มาเข้าร่วมจึงไม่ขัดข้องถ้าในช่วงที่เชิญภาคประชาชนจะเชิญไอลอว์มาด้วยและจะพิจารณาเอกสารที่ยื่นมา
ส่วนแนวทางในการป้องกันไม่ให้ถูกฉีกด้วยรัฐประหาร นั้นนายภูมิธรรม กล่าวว่า การทำรัฐประหารนำประเทศไปสู่จุดล้มเหลวพอสมควรดังนั้น ส่วนเรื่องจะฉีกหรือไม่เป็นวัฒนธรรมทางการเมืองที่ต้องให้ประชาชนตื่นตัวและรับรู้ ว่าการเกิดรัฐประหารเป็นสิ่งที่คนกลุ่มใหญ่และคนจำนวนมากไม่อยากเห็น เพราะพิสูจน์มาหลายครั้งแล้วว่าพอมีการรัฐประหารทำให้คนแก่อำนาจ ซึ่งสำนึกของประชาชนในประเทศจะทำให้การรัฐประหารเกิดขึ้นได้ยาก แต่อย่างไรก็จะพยายามสร้างกลไกให้ได้มากที่สุด
โปรแกรมการแข่งขันกีฬา เอเชียนเกมส์ 2022 วันที่ 3 ต.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 66 ของนักกีฬาไทย
โปรแกรมแข่งวอลเลย์บอลหญิงไทย รอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำศึกเอเชียนเกมส์ 2022
ตลาดรถกระบะร่วงหนักสัดส่วนเหลือ 32% ฟอร์ดอัดแคมเปญหนักหวังซื้อใจ